"ฮูโก้ เอกิติเก้" สะท้อนการปรับแท็กติกของสลอตกลับสู่แนวทางคล็อปป์

การเสริมทัพของลิเวอร์พูลในยุค อาร์เน่ สลอต ซัมเมอร์นี้ถือเป็นหนึ่งในการปฏิวัติขุมกำลังครั้งใหญ่ที่สุดของทีมแชมป์พรีเมียร์ลีก โดยเฉพาะการเปลี่ยนแปลงในแนวรับและแดนกลาง
อย่างไรก็ตาม การคาดหมายว่าฮูโก้ เอกิติเก้ กำลังจะย้ายมาร่วมทัพด้วยค่าตัวรวมโบนัสถึง 69 ล้านปอนด์ คือจุดเปลี่ยนสำคัญที่สะท้อนว่า สลอตอาจหวนกลับไปสู่แนวทางเกมรุกหนักแบบ “เฮฟวี่เมทัล” ที่เจอร์เก้น คล็อปป์เคยสร้างไว้
เอกิติเก้ วัย 23 ปี ยิงไป 15 ประตูและจ่ายอีก 8 แอสซิสต์ในบุนเดสลีกาเมื่อฤดูกาลที่ผ่านมา และเป็นหนึ่งในผู้เล่นที่มีส่วนร่วมกับเกมรุกมากที่สุดในลีก ทั้งการเลี้ยงทะลุไลน์ การทำชิ่ง และการพาบอลสู่พื้นที่สุดท้าย โดยเฉพาะการจ่ายบอลจากโอเพ่นเพลย์ถึง 44 ครั้ง ซึ่งมากที่สุดในหมู่กองหน้า
แม้เขาจะยังไม่เฉียบคมในการจบสกอร์ (ยิงเข้าเพียง 12.8% ของโอกาสทั้งหมด) แต่ศักยภาพในการพัฒนาเปรียบเสมือนกรณีของอเล็กซานเดอร์ อิซัค ที่เคยโดนตั้งคำถามในวัยเดียวกัน
แท็กติกของสลอตเมื่อฤดูกาลที่แล้วเน้นการครองบอลและความนิ่ง ต่างจากยุคคล็อปป์ที่เน้นความเร็วและการเปลี่ยนจังหวะเกม แต่การได้ตัวเอกิติเก้ และฟลอเรียน เวิร์ตซ์ เพลย์เมกเกอร์ทีมชาติเยอรมนี บ่งบอกว่าสลอตอาจกำลังหันกลับสู่เกมรุกที่เน้นความเร็วและไดเรกต์มากขึ้น
เอกิติเก้เคยเล่นในระบบกองหน้าคู่กับโอมาร์ มาร์มุชที่แฟรงค์เฟิร์ต และประสบความสำเร็จในระบบ 3-5-2 ซึ่งอาจนำมาปรับใช้ในลิเวอร์พูล โดยเฉพาะหาก โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ถูกขยับเข้ามายืนใกล้กับเขาในระบบ 4-2-3-1 และเปิดพื้นที่ให้เจเรมี่ ฟริมปงเติมเกมจากแบ็กขวา
การเสริมทัพด้วยผู้เล่นอย่างเอกิติเก้และเวิร์ตซ์ บ่งชี้ถึงความยืดหยุ่นและความพร้อมของลิเวอร์พูลในการปรับเข้าสู่ฟุตบอลยุคใหม่ ไม่ว่าจะเน้นครองบอลแบบเป๊ป หรือเปลี่ยนจังหวะเกมแบบคล็อปป์
สิ่งที่แน่นอนคือ ลิเวอร์พูลในยุคสลอตกำลังเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ และเอกิติเก้คือหัวใจของแนวรุกใหม่นั้น.

