PSG ครองบอลถึง 82.6% ในช่วง 15 นาทีแรก ก่อนขึ้นนำจากการยิงของ ฟาเบียน รูอิซ และวิตินญา มาบวกเพิ่มอีกหนึ่งประตูก่อนหมดครึ่งแรก หลังแหวกแนวรับแอตเลติโกเข้าไปยิงอย่างเยือกเย็น

ครึ่งหลัง ยาน โอบลัค ต้องออกแรงเซฟลูกยิงโค้งของ ควารัตสเคเลีย ที่ชนคาน ส่วนจูเลียน อัลวาเรซ ยิงเข้าไปแล้วแต่ VAR ย้อนเช็กว่า คูเก้ ทำฟาวล์ก่อนหน้า

นาที 78 แอตเลติโกเหลือ 10 คน เมื่อ เกลม็อง ล็องเลต์ โดนใบเหลืองที่สองจากการประท้วงผู้ตัดสิน หลังโอบลัคถูกขัดขวางขณะจะเล่นบอล

ท้ายเกม เปแอสเชมาได้อีก 2 ประตูจาก เซนนี มายูลู และจุดโทษของ อี คัง-อิน หลัง VAR จับแฮนด์บอลของ โรบิน เลอ นอร์ม็อง

ประเด็นร้อน – อากาศสุดโหด
เกมเริ่มเตะช่วงเที่ยงตามเวลาท้องถิ่น ทำให้นักเตะต้องเล่นท่ามกลางแสงแดดจัด โดยฟีฟ่ามีเพียงมาตรการให้พักดื่มน้ำครึ่งละ 1 ครั้ง หากอุณหภูมิ WBGT เกิน 32 องศา ซึ่ง FIFPRO มองว่าไม่เพียงพอในการปกป้องสุขภาพนักกีฬา

วิตินญา ยอมรับหลังเกมว่าอากาศส่งผลต่อฟอร์มการเล่น ขณะที่กุนซือหลุยส์ เอ็นริเก้ ก็ชี้ว่า “ความร้อนมีผลต่อเกมแน่นอน”

คนเด่น – วิตินญา
มิดฟิลด์วัย 25 ปีโชว์ฟอร์มเด่นต่อเนื่องในฤดูกาลที่ดีที่สุดของเจ้าตัว ทั้งการยิงประตูอย่างเฉียบคม และคุมจังหวะเกมแดนกลางได้ตลอด

แม้ ควารัตสเคเลีย จะมีสองแอสซิสต์ แต่บทบาทของเขาค่อนข้างเงียบ ส่วนฝั่งแอตเลติโก อัลวาเรซขยันเคลื่อนที่แต่ไม่ได้บอลมากพอ

สถิติสำคัญ

หลังปีใหม่ เปแอสเชยิงได้ถึง 103 ประตู จาก 154 ประตูรวมทั้งฤดูกาล และคว้า “ทริปเปิลแชมป์” ได้แก่ แชมเปียนส์ลีก, ลีกเอิง และเฟรนช์คัพ

โปรแกรมถัดไป

• แอต.มาดริด พบ ซีแอตเทิล ซาวน์เดอร์ส : 19 มิ.ย. (23:00 น. ตามเวลาไทย)
  

• PSG พบ โบตาโฟโก : 20 มิ.ย. (02:00 น. ตามเวลาไทย)