6 แคนดิเดตลุ้นบัลลงดอร์ 2025 จากเดมเบเล่ถึงซาลาห์ การแข่งขันที่เปิดกว้าง

การแข่งขันชิงรางวัลบัลลงดอร์ปี 2025 กำลังเข้มข้น โดยมีนักเตะชื่อดังอย่าง โมฮาเหม็ด ซาลาห์, อุสมาน เดมเบเล่ และคีลิยัน เอ็มบัปเป้ อยู่ในกลุ่มเต็ง รางวัลทรงเกียรติที่สุดของวงการลูกหนังโลกปีนี้อาจไม่มีตัวเต็งชัดเจน แต่ผลงานในฤดูกาลล่าสุดของแต่ละคนล้วนโดดเด่นไม่แพ้กัน
โมฮาเหม็ด ซาลาห์ (ลิเวอร์พูล) “ราชาแห่งอียิปต์” ยิงไป 29 ประตู และแอสซิสต์อีก 18 ครั้ง พาลิเวอร์พูลคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก โดยลงเล่นทุกนัดในลีกภายใต้กุนซือ อาร์เน่ สลอต แม้ทีมจะหยุดเส้นทางแชมเปี้ยนส์ลีกเพียงรอบ 16 ทีม แต่สลอตเชื่อว่านี่คือฤดูกาลที่ดีที่สุดของซาลาห์ในแง่ตัวเลข และน่าจะเป็นโอกาสสุดท้ายของเขาในการลุ้นบัลลงดอร์ก่อนอายุครบ 33 ปีกลางเดือนนี้
อุสมาน เดมเบเล่ (เปแอสเช)
ในวัย 28 ปี เดมเบเล่กลับมาแจ้งเกิดเต็มตัวอีกครั้งหลังย้ายจากบาร์เซโลน่ามาเปแอสเชในปี 2023 เขาทำไป 21 ประตูจาก 29 นัดในลีก พาทีมคว้าเทรเบิลแชมป์ รวมถึงแชมเปี้ยนส์ลีกครั้งประวัติศาสตร์ เดมเบเล่ฉายแววเด่นทั้งด้านความเร็ว เทคนิค และการเล่นร่วมกับดาวรุ่งอย่างเดซีเร่ ดูเอ้
ควิช่า ควารัตสเคเลีย (เปแอสเช)
แข้งทีมชาติจอร์เจียวัย 24 ปี เริ่มต้นฤดูกาลกับนาโปลี ก่อนย้ายมาคว้าแชมป์ลีกฝรั่งเศสและแชมเปี้ยนส์ลีกกับเปแอสเช เขาถือเป็นกุญแจสำคัญในเกมยุโรปของทีม ด้วยสไตล์การลากเลื้อยทั้งซ้ายขวา และการยิงอันหนักหน่วง แม้เส้นทางสู่จุดสูงสุดของเขาจะไม่ธรรมดา แต่ปีนี้ผลงานของเขาน่าประทับใจไม่แพ้ใคร
ราฟินญ่า (บาร์เซโลน่า)
อดีตฮีโร่หนีตกชั้นของลีดส์ กลายเป็นกำลังหลักของบาร์ซ่าในยุคฮานซี่ ฟลิค ยิง 34 ประตูรวมทุกรายการ พาทีมคว้าแชมป์ลาลีกา และเข้ารอบรองแชมเปี้ยนส์ลีก เขายังยิง 2 ประตูในศึกเอลกลาซิโก้ที่ทีมเอาชนะเรอัล มาดริด 4-3 ได้อีกด้วย
ลามีน ยามาล (บาร์เซโลน่า)
ดาวรุ่งวัย 17 ปี ถูกคาดว่าจะคว้าบัลลงดอร์ในอนาคต และอาจเร็วกว่าที่คิด หลังพาทีมคว้าแชมป์ลาลีกาและโกปา เดล เรย์ เขามีความสามารถในการเลี้ยงตัดเข้าในจากฝั่งขวาและยิงเสียบมุมได้อย่างเฉียบขาด จนเพื่อนร่วมทีมอย่างราฟินญ่าชื่นชมว่า “ไม่มีเพดานสำหรับเขา”
คีลิยัน เอ็มบัปเป้ (เรอัล มาดริด)
แม้ผลงานทีมโดยรวมจะไม่ดีนักในปีแรกกับราชันชุดขาว แต่เอ็มบัปเป้ยังโชว์ความเฉียบคม ยิง 31 ประตูจาก 34 เกมในลาลีกา เขาคว้าแชมป์ซูเปอร์คัพและอินเตอร์คอนติเนนตัล คัพ แต่ฟอร์มในแชมเปี้ยนส์ลีกยังไม่ตอบโจทย์ ทำให้ลุ้นรางวัลนี้ยากกว่าคู่แข่ง
การแข่งขันยังคงเปิดกว้าง และบัลลงดอร์ปีนี้อาจเป็นหนึ่งในปีที่ลุ้นที่สุดในรอบหลายปี

