คริสตัล พาเลซ สร้างประวัติศาสตร์ คว้าแชมป์เอฟเอคัพครั้งแรก หลังเฉือนแมนฯ ซิตี้ 1-0

คริสตัล พาเลซ ผงาดคว้าแชมป์เอฟเอคัพเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์สโมสร หลังเอาชนะแมนเชสเตอร์ ซิตี้ 1-0 ในนัดชิงชนะเลิศที่สนามเวมบลีย์
ประตูชัยเกิดขึ้นในนาทีที่ 16 จากจังหวะสวนกลับเร็ว ดาเนียล มูนญอซ เปิดบอลให้ เอเบเรชี เอเซ ซัดเข้าไปอย่างเฉียบคม ส่งแฟนบอลพาเลซเข้าสู่บรรยากาศแห่งความหวัง
ฝั่งแมนฯ ซิตี้ ต้องพบกับความผิดหวังตลอดทั้งเกม โดยเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ฤดูกาล 2016/17 ที่พวกเขาจบฤดูกาลโดยไร้แชมป์ภายใต้การคุมทีมของ เป๊ป กวาร์ดิโอลา
จังหวะปัญหาเกิดขึ้นเมื่อ ดีน เฮนเดอร์สัน ผู้รักษาประตูพาเลซ ทำแฮนด์บอลนอกกรอบภายใต้แรงกดดันจาก เออร์ลิง ฮาแลนด์ แต่ VAR ตัดสินว่าไม่ได้ปฏิเสธโอกาสชัดเจนในการทำประตู เพราะฮาแลนด์กำลังเคลื่อนที่ออกจากประตู
ไม่เพียงแค่รอดใบแดง เฮนเดอร์สันยังกลายเป็นฮีโร่ของทีม เมื่อเซฟจุดโทษของ โอมาร์ มาร์มุช ในนาทีที่ 36 หลังไทริก มิตเชลล์ ทำฟาวล์ใส่แบร์นาร์โด ซิลวา โดยฮาแลนด์ไม่ได้ยิงเอง หลังพลาดจุดโทษ 3 จาก 7 ครั้งก่อนหน้านี้
แม้ซิตี้จะครองบอลได้เหนือกว่าอย่างชัดเจน แต่แนวรับของพาเลซที่นำโดยโค้ช โอลิเวอร์ กลาสเนอร์ เล่นกันอย่างมีวินัย ขณะที่เฮนเดอร์สันเซฟลูกยิงสำคัญจากฮาแลนด์, โยชโก กวาร์ดิโอล, เจเรมี โดกู และเคลาดิโอ เอเชเวร์รี ได้อย่างยอดเยี่ยม
เสียงนกหวีดสุดท้ายดังขึ้น ท่ามกลางความดีใจอย่างล้นหลามของแฟนบอล “ดิ อีเกิลส์” ที่เฝ้ารอความสำเร็จนี้มานาน กลายเป็นช่วงเวลาประวัติศาสตร์ของคริสตัล พาเลซ อย่างแท้จริง

